1.เค้าไพ่หางมังกร
สาเหตุที่เรียกกันว่าเค้าไพ่ห่างมังกร เพราะไพ่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งระหว่าง Player กับ Banker จะออกติดกันยาวอย่างน้อย 5-15 ตา จนดูเหมือนหางยาว ๆ ของมังกร วิธีอ่านไพ่ชนิดนี้ คือให้ดูว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะติดกันเกิน 5 ครั้งหรือไม่ หากมี ก็สามารถแทงตามมังกรไปเรื่อย ๆ ได้เลยจนกว่าอีกฝั่งหนึ่งจะกลับมาชนะ จริงอยู่ว่านักพนันส่วนใหญ่จะชอบแทงสวนมากกว่า เพราะคิดว่ามังกรจะไม่ออกยาวไปกว่านี้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ถ้าแทงตามไป ยังไงโอกาสชนะก็มีสูงกว่าเยอะ
2.เค้าไพ่บาคาร่าปิงปอง
รูปแบบของไพ่ปิงปอง จะตรงข้ามกับมังกรเลย คือ ไพ่ของ Player และ Banker จะผลัดกันชนะสลับไปเรื่อย ๆ โดยอาจออกต่อเนื่องกันได้มาก 5-15 ตาไม่แพ้แบบมังกรเลย ในกรณีนี้สามารถดูเกมที่ 5 ได้เหมือนกัน หากยังเป็นเช่นนั้นก็สามารถแทงสลับกันไปเรื่อย ๆ จนว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะเกิน 1 รอบได้
3.เค้าไพ่สองตัวติด
เค้าไพ่ชนิดนี้จะมีรูปแบบคล้าย ๆ ไพ่ปิงปอง แต่จะเปลี่ยนจากที่ออก Banker, Player, Banker, Player ไปเรื่อย ๆ เป็นอย่างละ 2 ชุด เช่น Banker Banker, Player Player, Banker Banker เป็นต้น หน้าที่ของเหล่านักเสี่ยงโชค ก็แค่แทงสลับกันตามจังหวะที่ออกไปเรื่อย ๆ ได้เลย แต่ขอแนะนำเทคนิคเพิ่มอีกอย่างว่า เค้าไพ่แบบนี้เหมาะสุดที่จะเล่นใน 30 เกมแรก ถ้าเลยหลังจากนั้นไปแล้วโอกาสเกิดค่อนข้างยากพอสมควร
4.เค้าไพ่สามตัวติด
เค้าไพ่รูปแบบนี้ก็เหมือนไพ่ปิงปอง กับไพ่สองตัวติดเลย แต่จะต่างกันแค่เปลี่ยนมาออก 3 ชุดสลับกันไปเรื่อย ๆ แทนเท่านั้น เช่น Banker Banker Banker, Player Player Player แล้วก็สลับกลับมา Banker Banker Banker ให้ วนแบบนี้จนกว่าจะหมดชุด
5.เค้าไพ่สองตัวตัด
เค้าไพ่สองตัวตัด จะมีลักษณะคล้ายกับปิงปองนิดหน่อย คือฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะชนะติดกันไม่เกิน 2 ตา และจะสลับไปแบบนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะมากกว่า 2 ตาขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น Player Player, Banker, Player, Banker Banker จริงอยู่ว่าเค้าไพ่ลักษณะนี้จะเล่นยากกว่า 4 แบบข้างบนที่กล่าวมา แต่ถ้าจับทางได้ ก็ได้กำไรไม่ยากอย่างที่คิด
6.เค้าไพ่สามตัวตัด
ไพ่ลักษณะนี้ก็คล้าย ๆ กับไพ่สองตัวตัด เพียงแต่จะเพิ่มให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะไม่เกิน 3 เกมแทน เช่น Player Player Player, Banker Banker, Player Player, Banker, Player, Banker Banker Banker เป็นต้น